มีปัญหากับตัวรีโมทของท่านใช่ไหม? ต่อไปนี้เป็นห้าปัญหาทั่วไปที่พบได้บ่อยมาก และวิธีแก้ไข
ตัวรีโมท; วัตถุเรียบง่ายที่ทรงพลังของทีวีของท่าน รีโมทของท่านเป็นตัวกลางสำคัญที่ ท่านจะใช้กับทีวีของท่าน, จึงขอให้ตรวจสอบให้มั่นใจว่าตัวรีโมทนั้นทำงานได้อย่างถูกต้อง ต่อไปนี้เป็น 5 ประเด็นของเราที่เป็นปัญหาที่พบมากที่สุดและวิธีแก้ปัญหา
แต่ก่อนที่เราจะเริ่มต้น... คำแนะนำในการแก้ปัญหาที่รวดเร็วของเรา
ก่อนที่จะลองขั้นตอนการแก้ปัญหาใด ๆ ที่อยู่ในคู่มือนี้ เราขอแนะนำว่า ให้ท่านถอดแบตเตอรี่ออกจากตัวรีโมทนานประมาณ 1 นาที จากนั้น ใส่แบตเตอรี่เข้าไปใหม่ตรงตามขั้ว (-/+)
ถ้าปัญหายังคงมีอยู่ เราแนะนำให้ท่านเลือกวิธีการแก้ปัญหาที่เหมาะสมที่สุดตามอาการที่อธิบายในตารางสารบัญ
- ความเสียหายทางกายภาพ
ท่านได้นั่งทับรีโมทของท่านโดยบังเอิญ หรือทำหล่นบนพื้นบ้างหรือไม่? ถ้ามีร่องรอยของความเสียหาย หรือท่านไม่สามารถตอบโต้กับทีวีของท่านโดยใช้ตัวรีโมทได้ เราแนะนำให้หาอันใหม่ทดแทน ติดต่อกับ ศูนย์บริการ ของเราสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม
- การตอบสนองที่เชื่องช้า
ถ้าหากทีวีของท่านไม่ตอบสนองหรือทำงานช้า ให้ลองตามคำแนะนำการแก้ปัญหาง่ายๆ สองสามอย่างนี้:
a. เคลื่อนย้ายวัตถุที่บังหรือขวางกั้นตัวรับ IR ของทีวีนั้น
b. ลองทำการลดระยะทางระหว่างตัวรีโมทกับตัวเครื่องทีวี
c. ถอดแบตเตอรี่ออก รอ 1 นาที ใส่แบตเตอรี่เข้าไปใหม่ตามขั้ว (-/+)
d. ตรวจเช็คดูว่าท่านต้องเปลี่ยนด้วยแบตเตอรี่ที่ใหม่ทั้งคู่หรือไม่
e. ดำเนินการเพาเวอร์รีเซ็ต: ถอดปลั๊กของสายไฟกำลังของทีวีออกนาน 60 วินาที (หรือ 2 นาที สำหรับ Android TV) และเสียบกลับเข้าไปใหม่
f. ดำเนินการอัปเดตซอฟต์แวร์ให้กับทีวี
g. ดำเนินการรีเซ็ตให้กลับไปเป็นค่าจากโรงงาน*
หมายเหตุ:
- การตอบสนองของทีวีและตัวรีโมท จะมีการปรับปรุงให้ดีขึ้นตามการอัปเดตเฟิร์มแวร์ในแต่ละครั้ง ถ้าหากท่านรู้สึกว่าอาการนี้ยังมีอยู่อย่างชัดเจน กรุณารอการอัปเดตเฟิร์มแวร์ในครั้งถัดไป
- * ข้อสำคัญ:
- สำหรับ Android TV: ให้ระมัดระวัง ในกรณีที่ท่านทำการรีเซ็ตให้กลับไปเป็นค่าจากโรงงาน ข้อมูลทั้งหมดของทีวี และการตั้งค่าต่าง ๆ (Wi-Fi และข้อมูลการตั้งค่าเครือข่ายแบบใช้สาย บัญชีผู้ใช้งาน Google และข้อมูลการล็อคอิน Google Play และแอปพลิเคชันอื่น ๆ ที่ติดตั้งไว้ ฯลฯ) จะถูกลบหายไป และทีวีจะกลับไปเป็นสถานะเหมือนกับตอนที่ซื้อมาครั้งแรก
- สำหรับทีวีที่ไม่ใช่ Android TV: ขั้นตอนนี้จะทำการรีเซ็ตค่าการ ปรับแต่งวิดีโอ (video calibration) ของทีวีด้วย
คลิกที่นี่ เพื่อทำการตรวจเช็คดูว่ารุ่นเครื่องของท่านเป็นเครื่อง Android หรือไม่ใช่ Android
3. ฟังก์ชันเสียงไม่ทำงาน
ถ้าหากท่านพบปัญหากับการค้นหาหรือการสั่งงานด้วยเสียง , ท่านจะต้องใช้วิธีการแก้ปัญหาที่แตกต่างออกไปเล็กน้อย, ตามรุ่นเครื่องของท่าน
ท่านควรจะต้องตรวจเช็คอยู่เสมอว่าอาการนี้ได้รับการแก้ไขไปหรือไม่หลังการทำในแต่ละขั้นตอนแล้ว:
a. ท่านเห็นไฟ LED สีเหลืองอำพัน เมื่อทำการกดปุ่ม MIC หรือไม่ ?
i. [เห็น] ไปที่ขั้นตอน[e.]
ii. [ไม่เห็น]
b. ถอดแบตเตอรี่ออก รอ 1 นาที ใส่แบตเตอรี่เข้าไปตามขั้ว (-/+)
c. ตรวจเช็คดูว่าท่านต้องเปลี่ยนด้วยแบตเตอรี่ที่ใหม่ทั้งคู่หรือไม่
d. ตรวจเช็คดูไฟ LED อีกครั้งจากขั้นตอน [a.]
e. ลองทำการจับคู่อีกครั้งผ่านทาง Bluetooth
i. สำหรับรีโมทแบบทัชแพ็ด
ii. สำหรับรีโมทแบบ IR voice
f. ดำเนินการเพาเวอร์รีเซ็ต: ถอดปลั๊กของสายไฟกำลังของทีวีออกนาน 60 วินาที(หรือ 2 นาที สำหรับ Android TV) และเสียบกลับเข้าไปใหม่ หรือ สำหรับ Android TV ให้ทำการรีเซ็ตโดยการกดค้างที่ปุ่มเพาเวอร์บนตัวรีโมทคอนโทรลนาน 5 วินาที
g. ดำเนินการอัปเดตซอฟต์แวร์ให้กับทีวี
h. ดำเนินการรีเซ็ตให้กลับไปเป็นค่าจากโรงงาน*
- * ข้อสำคัญ:
- สำหรับ Android TV: ให้ระมัดระวัง ในกรณีที่ท่านทำการรีเซ็ตให้กลับไปเป็นค่าจากโรงงาน ข้อมูลทั้งหมดของทีวี และการตั้งค่าต่าง ๆ (Wi-Fi และข้อมูลการตั้งค่าเครือข่ายแบบใช้สาย บัญชีผู้ใช้งาน Google และข้อมูลการล็อคอิน Google Play และแอปพลิเคชันอื่น ๆ ที่ติดตั้งไว้ ฯลฯ) จะถูกลบหายไป และทีวีจะกลับไปเป็นสถานะเหมือนกับตอนที่ซื้อมาครั้งแรก
- สำหรับทีวีที่ไม่ใช่ Android TV: ขั้นตอนนี้จะทำการรีเซ็ตค่าการ ปรับแต่งวิดีโอ (video calibration) ของทีวีด้วย
คลิกที่นี่ เพื่อทำการตรวจเช็คดูว่ารุ่นเครื่องของท่านเป็นเครื่อง Android หรือไม่ใช่ Android
4.ปุ่มต่าง ๆไม่ทำงาน
ต่อไปนี้เป็นวิธีการที่ง่ายและได้ผล ตรวจเช็คดูว่าตัวเซ็นเซอร์ IR ทำงานหรือไม่ โดยการใช้กล้องในโทรศัพท์สมาร์ทโฟนของท่าน
i. เปิดกล้องในโทรศัพท์สมาร์ทโฟนของท่านขึ้นมา
ii จากนั้น กดที่ปุ่มใด ๆ บนตัวรีโมทในระหว่างที่เล็งไปที่กล้องของโทรศัพท์สมาร์ทโฟนนั้น
ii. ถ้าหากท่านเห็นแสงในภาพบนกล้อง แสดงว่าตัวรีโมททำงานเป็นปกติดี!
จากนั้น, มีสองขั้นตอนที่จะต้องทำอย่างเร็ว:
I เคลื่อนย้ายวัตถุแปลกปลอมที่ปกคลุมตัวรับ IR ของทีวีนั้น
II. ลองลดระยะห่างระหว่างตัวรีโมทและตัวทีวีลง
อย่างไรก็ตาม, ถ้าหากท่านมองไม่เห็นอะไรเลย, เราแนะนำให้ลองวิธีการแก้ปัญหาต่อไปนี้และตรวจเช็คดูว่าอาการนี้หายไปหรือไม่หลังการทำในแต่ละขั้นตอนแล้ว:
a. ถอดแบตเตอรี่ออก รอ 1 นาที, ใส่แบตเตอรี่เข้าไปตามขั้ว (-/+)
b. ตรวจเช็คดูว่าท่านต้องเปลี่ยนด้วยแบตเตอรี่ที่ใหม่ทั้งคู่หรือไม่
c. ดำเนินการเพาเวอร์รีเซ็ต: ถอดปลั๊กของสายไฟกำลังของทีวีออกนาน 60 วินาที (หรือ 2 นาที สำหรับ Android TV) และเสียบกลับเข้าไปใหม่ หรือ สำหรับ Android TV ให้ทำการรีเซ็ตโดยการกดค้างที่ปุ่มเพาเวอร์บนตัวรีโมทคอนโทรลนาน 5 วินาที
d. ดำเนินการอัปเดตซอฟต์แวร์ให้กับทีวี
e. ดำเนินการรีเซ็ตให้กลับไปเป็นค่าจากโรงงาน*
- *ข้อสำคัญ:
- สำหรับ Android TV: ให้ระมัดระวัง ในกรณีที่ท่านทำการรีเซ็ตให้กลับไปเป็นค่าจากโรงงาน ข้อมูลทั้งหมดของทีวี และการตั้งค่าต่าง ๆ (Wi-Fi และข้อมูลการตั้งค่าเครือข่ายแบบใช้สาย บัญชีผู้ใช้งาน Google และข้อมูลการล็อคอิน Google Play และแอปพลิเคชันอื่น ๆ ที่ติดตั้งไว้ ฯลฯ) จะถูกลบหายไป และทีวีจะกลับไปเป็นสถานะเหมือนกับตอนที่ซื้อมาครั้งแรก
- สำหรับทีวีที่ไม่ใช่ Android TV: ขั้นตอนนี้จะทำการรีเซ็ตค่าการ ปรับแต่งวิดีโอ (video calibration) ของทีวีด้วย
ถ้าหากท่านทำตามขั้นตอนข้างต้นแล้ว และปัญหายังคงเกิดขึ้น ตัวรีโมทคอนโทรลอาจจะต้องได้รับการเปลี่ยนใหม่
คลิกที่นี่ เพื่อทำการตรวจเช็คดูว่ารุ่นเครื่องของท่านเป็นเครื่อง Android หรือไม่ใช่ Android
5. ปัญหาอื่น ๆ
ดูเหมือนว่าไม่มีอะไรทำงานเลยใช่ไหม? เรามีฐานความรู้ที่มีคำแนะนำและเคล็ดลับให้มากมาย เรามั่นใจว่าจะมีวิธีแก้ปัญหาอยู่แน่นอน ไม่ว่าปัญหาเฉพาะของท่านจะเป็นอย่างไร กรุณาเข้าไปดูที่ เว็บไซต์สนับสนุนของเรา ไปที่หน้าผลิตภัณฑ์ทีวีเฉพาะของท่าน และพิมพ์ปัญหาของท่าน หรือคำหลักบางคำเข้าไปในแถบสำหรับค้นหา