หน้าจอไม่ปิดในระหว่างการโทรศัพท์ เมื่อท่านถือโทรศัพท์ไว้ใกล้กับใบหน้าของท่าน (Android 8.x หรือ ที่ต่ำกว่า)
อุปกรณ์ของท่านมีตัว เซนเซอร์ที่จะตรวจจับการเข้าใกล้ เซนเซอร์ระยะใกล้นี้จะปิด หน้าจอสัมผัสในระหว่างการโทรด้วยเสียงเมื่อหูของท่านอยู่ใกล้กับหน้าจอ เป็นการป้องกันท่านจะการเปิด ฟังก์ชันอื่นโดยไม่ตั้งใจใน อุปกรณ์ของท่านเมื่อท่านกำลังโทรศัพท์ เซนเซอร์ระยะใกล้จะอยู่ที่ส่วนบนของด้านหน้าของ โทรศัพท์ (เหนือหน้าจอ) เวลาที่ต้องใช้สำหรับ เซนเซอร์ในการเปิดหรือปิดหน้าจอก่อนและหลังการโทรศัพท์จะคงที่ จะใช้เวลาสองสามวินาทีในการเปิดหรือปิดหน้าจอ
เซนเซอร์ระยะใกล้อาจจะไม่ทำงานตามที่ตั้งไว้ในกรณีต่อไปนี้:
- ท่านอาจจะลืมถอดแผ่นฟิล์มใสป้องกันชั่วคราวที่ปิดที่ หน้าจอสัมผัสออกเมื่อท่านซื้อมาในครั้งแรก แผ่นฟิล์มดังกล่าวออกแบบมาเพื่อป้องกันหน้าจอระหว่างการจัดส่งเท่านั้น และลอกออกได้ง่าย บ่อยครั้งท่านจะรับรู้ได้จากปลายที่ยื่นออกมา
- ถ้าอุปกรณ์ของท่านมีฟิล์มสำหรับป้องกัน ตรวจสอบให้มั่นใจเป็นของที่ใช้สำหรับเครื่อง Xperia™ โดยเฉพาะ เป็นเรื่องสำคัญที่ฟิล์มดังกล่าวจะมีรูสำหรับ เซนเซอร์ระยะใกล้ และกล้องด้านหน้าที่มีตำแหน่งถูกต้อง
- ตรวจสอบให้มั่นใจว่า เซนเซอร์ระยะใกล้สะอาด ปัญหาจำนวนมากที่เกี่ยวกับ เซนเซอร์ระยะใกล้นี้อาจจะแก้ไขได้โดยการทำความสะอาด
- ถ้าหากท่านใช้เคส หรือปิดคลุม ที่ไม่พอดีกับโทรศัพท์ อาจจะส่่งผลกระทบต่อการทำงานของ เซนเซอร์ระยะใกล้นี้ได้ ตัวเคสอาจจะปิดคลุมตัว เซนเซอร์อยู่
- อาจจะมีสาเหตุอื่นที่ทำให้ เซนเซอร์ไม่ทำงานตามที่ตั้งไว้
โปรดลองวิธีเหล่านี้ทีละข้อ ตรวจสอบหลังดำเนินการแต่ละวิธีว่าแก้ปัญหาได้หรือไม่ก่อนลองวิธีถัดไป
- ตรวจสอบให้มั่นใจว่าได้ถอดแผ่นฟิล์มใสป้องกันชั่วคราวที่ปิดที่ หน้าจอสัมผัสออกเมื่อท่านซื้อมาในครั้งแรก ฟิล์มนี้จะมีปลายยื่นออกมาให้ดึง
หมายเหตุ! ห้ามถอด ASF (ฟิล์มป้องกันกระจกแตก (anti-shatter film)) บาง ๆ ออก ถ้าหากอุปกรณ์ของท่านมีอยู่ ซึ่งใส่ไว้ป้องกันการเกิดรอยขีดข่วน - ตรวจดูฟิล์มป้องกันใด ๆ ที่อุปกรณ์ของท่านใช้อยู่ (ที่ไม่ได้เป็นฟิล์มบางป้องกันกระจกแตกจากโรงงาน) ว่ามีช่องสำหรับเซนเซอร์ระยะใกล้ และกล้องด้านหน้าอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง ตัว เซนเซอร์จะอยู่ที่ด้านบนสุดของ อุปกรณ์เหนือหน้าจอ ถ้าต้องการตรวจสอบตำแหน่งที่แท้จริงของ เซนเซอร์ระยะใกล้สำหรับเครื่อง Xperia ของท่าน ให้อ้างอิงกับคู่มือสำหรับผู้ใช้ ท่านสามารถดูภาพของ อุปกรณ์และชิ้นส่วนฮาร์ดแวร์หลักได้ในหัวข้อของ เริ่มต้นใช้งาน (Getting started) ใน ภาพรวม (Overview) ถ้าหากท่านไม่สามารถตรวจดูได้ว่าฟิล์มป้องกันนี้มีการใส่ไว้อย่างถูกต้อง ถ้ามีให้ถอดออก แต่อย่าแกะฟิล์มบางป้องกันกระจกแตกจากโรงงานออก
- ทำความสะอาดตัว เซนเซอร์ระยะใกล้
- ถอดเคสหรือสิ่งปิดคลุมใด ๆ ที่ท่านใช้กับ โทรศัพท์ของท่านออก
- บังคับให้โทรศัพท์รีสตาร์ท
- ทดสอบ เซนเซอร์ระยะใกล้ใน โทรศัพท์ของท่าน
- ตรวจสอบให้มั่นใจว่าอุปกรณ์ของท่านมี การชาร์จไฟไว้เต็มแล้ว จากนั้นทำการอัพเดตซอฟต์แวร์ระบบ ถ้าหากมีให้
- สำรองข้อมูลสำคัญใด ๆ ที่เก็บไว้ใน อุปกรณ์ของท่าน จากนั้น ดำเนินการรีเซ็ตข้อมูลให้เป็นค่าจากโรงงาน
- ติดต่อกับผู้จัดจำหน่ายเดิมหรือ ติดต่อกับเรา ถ้าหากท่านต้องส่งมอบ อุปกรณ์ของท่านเพื่อรับบริการตรวจซ่อม ให้สำรองของมูลทั้งหมดที่ท่านต้องการจะเก็บไว้ก่อน ข้อมูลในอุปกรณ์จะถูกลบหายไปในการตรวจสอบ ให้ลบ บัญชีผู้ใช้ Google ทั้งหมดที่ท่านมีใน อุปกรณ์ของท่านก่อนการส่งมอบ อย่าลืมนำเอกสารที่ถูกต้องเหมาะสมไปด้วย เช่นใบเสร็จและใบรับประกัน เอกสารที่ต้องใช้นั้นต่างกันไปในตลาด ประเทศ หรือภูมิภาคแต่ละแห่ง
หมายเหตุ: ถ้าขั้นตอนต่อไปนี้ใช้ไม่ได้ หรือการทดสอบการเข้าใกล้ให้ผลเป็นลบ กรุณาติดต่อกับศููนย์บริการที่อยู่ใกล้ท่านที่สุด กรุณาตรวจสอบว่า อุปกรณ์่ของท่านไม่ได้อยู่นอกเงี่อนไขหรือไม่สามารถเข้ารับบริการตรวจซ่อมได้
ข้อมูลโดยละเอียด
วิธีบังคับให้อุปกรณ์เริ่มทำงานใหม่
วิธีบังคับให้อุปกรณ์รีสตาร์ท
- กดค้างที่ทั้งคีย์ปรับระดับเสียงขึ้นและคีย์ปิดเปิดเครื่อง จน อุปกรณ์ของท่านสั่นสามครั้ง จากนั้นให้ปล่อยนิ้วจากคีย์ที่กด อุปกรณ์จะปิดเครื่องโดยอัตโนมัติ
- หลัง อุปกรณ์ปิดตัวลงไป ให้ทำการเริ่มการทำงานใหม่กับ อุปกรณ์ของท่านโดยการกดที่คีย์ปิดเปิดเครื่อง
ถ้าต้องการทดสอบเซนเซอร์ระยะใกล้
Android 8.x
ถ้าต้องการทดสอบ เซนเซอร์ระยะใกล้
- หาและแตะที่ การตั้งค่า (Settings) > ระบบ (System) > เกี่ยวกับโทรศัพท์ (About Phone) > การสนับสนุน (Support) ถ้าเป็นการใช้การสนับสนุน (Support) นี้เป็นครั้งแรก ให้แตะที่ ยอมรับ (ACCEPT) เพื่อตกลงยอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy policy)
- ในแท็บ
เลื่อนลงไปและแตะที่ ใกล้ใบหู (Ear proximity)และทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ
Android 6.0, 7.0, 7.1 หรือ 7.1.1
ถ้าต้องการทดสอบ เซนเซอร์ระยะใกล้
- แตะไอคอนหน้าจอแอปพลิเคชันจากหน้าจอหลัก
- หาและแตะที่ การตั้งค่า (Settings) > เกี่ยวกับโทรศัพท์ (About Phone) > การสนับสนุน (Support) ถ้าเป็นการใช้การสนับสนุน (Support) นี้เป็นครั้งแรก ให้แตะที่ ยอมรับ (ACCEPT) เพื่อตกลงยอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy policy)
- ในแท็บ
เลื่อนลงไปและแตะที่ ใกล้ใบหู (Ear proximity)และทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ
Android 4.2, 4.3, 4.4, 5.0 หรือ 5.1
ถ้าต้องการทดสอบ เซนเซอร์ระยะใกล้
- แตะไอคอนหน้าจอแอปพลิเคชันจากหน้าจอหลัก
- หาและแตะที่ การตั้งค่า (Settings) > เกี่ยวกับโทรศัพท์ (About Phone) > การวิเคราะห์ (Diagnostics)
- แตะที่ ทดสอบอุปกรณ์ (Test device) >ใกล้ใบหู (Ear proximity)และทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ
การอัปเดต ซอฟต์แวร์ระบบ
วิธีที่ง่ายที่สุดในการติดตั้งการอัปเดตซอฟต์แวร์ก็คือการดำเนินการแบบไร้สายจากอุปกรณ์ แต่อัปเดตบางอย่างอาจไม่มีให้ดาวน์โหลดแบบไร้สาย ในกรณีดังกล่าว ท่านจะต้องตรวจดู ซอฟต์แวร์อันใหม่โดยใช้ สาย USB และ คอมพิวเตอร์ที่มี Xperia™ Companion
การอัปเดตแบบไร้สาย
Android 8.x
วิธีดาวน์โหลดและติดตั้งการอัปเดตระบบแบบ ไร้สาย
- หากใช้อุปกรณ์ร่วมกับผู้ใช้หลายราย โปรดตรวจสอบว่าท่านลงชื่อเข้าใช้ในฐานะเจ้าของแล้ว
- ค้นหาและแตะที่ การตั้งค่า (Settings) > ระบบ (System) > การอัปเดตซอฟต์แวร์ (Software update)
- ถ้ามีการอัปเดตระบบอยู่ ให้แตะที่ ดาวน์โหลด (Download) เพื่อดาวน์โหลดมาให้กับอุปกรณ์ของท่าน
- เมื่อดาวน์โหลดเสร็จแล้ว ให้แตะ ทำต่อ (Continue)แล้วทำตามคำแนะนำในหน้าจอเพื่อติดตั้งให้เสร็จสมบูรณ์
Android 7.1.1 หรือที่ต่ำกว่า
วิธีดาวน์โหลดและติดตั้งการอัปเดตระบบแบบ ไร้สาย
- หากใช้อุปกรณ์ร่วมกับผู้ใช้หลายราย โปรดตรวจสอบว่าท่านลงชื่อเข้าใช้ในฐานะเจ้าของแล้ว
- แตะไอคอนหน้าจอแอปพลิเคชันจากหน้าจอหลัก
- ค้นหาและแตะที่ การตั้งค่า (Settings) > เกี่ยวกับโทรศัพท์ (About phone) > การอัปเดตซอฟต์แวร์ (Software update)
- ถ้ามีการอัปเดตระบบอยู่ ให้แตะที่ ดาวน์โหลด (Download) เพื่อดาวน์โหลดมาให้กับอุปกรณ์ของท่าน
- เมื่อดาวน์โหลดเสร็จแล้ว ให้แตะ ทำต่อ (Continue) แล้วทำตามคำแนะนำในหน้าจอเพื่อติดตั้งให้เสร็จสมบูรณ์
การอัปเดตโดยใช้คอมพิวเตอร์
วิธีอัปเดตอุปกรณ์โดยใช้คอมพิวเตอร์
- ถ้ายังไม่ได้ติดตั้ง ให้ดาวน์โหลดและติดตั้ง แอปพลิเคชัน Xperia™ Companion จาก หน้า Xperia Companion
- ใช้สาย USB เชื่อมต่ออุปกรณ์กับคอมพิวเตอร์
- อุปกรณ์ Xperia: ถ้ามีแจ้งขึ้นมาใน ไดอะล็อก ใช้ USB สำหรับ (Use USB for) ให้แตะที่ ถ่ายโอนไฟล์ (Transfer files) (MTP)
- เปิด Xperia Companion ถ้ายังไม่ได้เปิดไว้โดยอัตโนมัติ
- คอมพิวเตอร์: หากตรวจพบว่ามีการอัปเดตซอฟต์แวร์ใหม่ หน้าต่างป็อปอัพจะปรากฏขึ้น ปฏิบัติตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อใช้อัปเดตซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้อง
ทำการรีเซ็ตกลับไปเป็นค่าจากโรงงาน
Android 8.x
วิธีรีเซ็ตกลับไปเป็นค่าจากโรงงาน
- ทำการสำรองข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ที่ท่านต้องการจะเก็บและที่เก็บอยู่ในหน่วยความจำภายในของอุปกรณ์ของท่าน ภาพถ่าย วิดีโอ เพลง และข้อมูลอื่น ๆ ที่เก็บไว้ใน การ์ดหน่วยความจำ ภายนอกจะไม่ถูกลบออกไป
- โปรดเตรียมชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านของบัญชี Google™ ให้พร้อม หมายเหตุ! ขึ้นอยู่กับ การตั้งค่าความปลอดภัยของท่าน ท่านอาจจะต้องใส่ บัญชีผู้ใช้ Google ที่ท่านใช้ใน อุปกรณ์ Xperia ของท่านเพื่อให้สามารถใช้หลังการ รีเซ็ตกลับไปเป็นค่าจากโรงงาน
- หาและแตะที่ การตั้งค่า (Settings) > ระบบ (System) > รีเซ็ต (Reset) > รีเซ็ตกลับไปเป็นค่าจากโรงงาน (Factory data reset)
- แตะ รีเซ็ตโทรศัพท์
- หากจำเป็น ให้วาดรูปแบบการปลดล็อกหน้าจอหรือป้อนรหัสผ่านหรือ PIN สำหรับปลดล็อกหน้าจอเพื่อดำเนินการต่อ
- ในการยืนยัน ให้แตะ Erase everything(ลบทุกอย่าง)
Android 5.0, 5.1, 6.0, 7.0, 7.1 หรือ 7.1.1
วิธีรีเซ็ตกลับไปเป็นค่าจากโรงงาน
- ทำการสำรองข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ที่ท่านต้องการจะเก็บและที่เก็บอยู่ในหน่วยความจำภายในของอุปกรณ์ของท่าน ภาพถ่าย วิดีโอ เพลง และข้อมูลอื่น ๆ ที่เก็บไว้ใน การ์ดหน่วยความจำ ภายนอกจะไม่ถูกลบออกไป
- โปรดเตรียมชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านของบัญชี Google ให้พร้อม หมายเหตุ! ขึ้นอยู่กับ การตั้งค่าความปลอดภัยของท่าน ท่านอาจจะต้องใส่ บัญชีผู้ใช้ Google ที่ท่านใช้ใน อุปกรณ์ Xperia ของท่านเพื่อให้สามารถใช้หลังการ รีเซ็ตกลับไปเป็นค่าจากโรงงาน
- แตะไอคอนหน้าจอแอปพลิเคชันจากหน้าจอหลัก
- ค้นหาและแตะ การตั้งค่า > สำรองข้อมูลและรีเซ็ต > รีเซ็ตกลับเป็นข้อมูลจากโรงงาน
- Android 5.0/5.1: ถ้าหากท่านต้องการจะลบข้อมูลด้วยเช่น รูปภาพ และ เพลง ที่เก็บไว้ในที่เก็บข้อมูลภายในอุปกรณ์ของท่าน ให้ใส่เครื่องหมายเลือกที่กล่องเลือก ลบ ที่เก็บข้อมูลภายใน (Erase internal storage) (ไม่มีผลกับการ์ด SD)
- แตะที่ รีเซ็ตโทรศัพท์/แท็บเล็ต (Reset phone/tablet) หรือ ลบทุกอย่าง (Erase everything)
- หากจำเป็น ให้วาดรูปแบบการปลดล็อกหน้าจอหรือป้อนรหัสผ่านหรือ PIN สำหรับปลดล็อกหน้าจอเพื่อดำเนินการต่อ
- ในการยืนยัน ให้แตะ ลบทุกอย่าง (Erase everything)
Android 4.2, 4.3 หรือ 4.4
วิธีรีเซ็ตกลับไปเป็นค่าจากโรงงาน
- ทำการสำรองข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ที่ท่านต้องการจะเก็บและที่เก็บไว้ใน หน่วยความจำภายในของ อุปกรณ์ของท่าน
- แตะไอคอนหน้าจอแอปพลิเคชันจากหน้าจอหลัก
- ค้นหาและแตะ การตั้งค่า > สำรองข้อมูลและรีเซ็ต > รีเซ็ตกลับเป็นข้อมูลจากโรงงาน
- ถ้าหากท่านต้องการจะลบข้อมูลด้วยเช่น รูปภาพ และ เพลง ที่เก็บไว้ในที่เก็บข้อมูลภายในอุปกรณ์ของท่าน ให้ใส่เครื่องหมายเลือกที่กล่องเลือก ลบที่เก็บข้อมูลภายใน (Erase internal storage) (ไม่มีผลกับการ์ด SD)
- แตะที่ รีเซ็ตโทรศัพท์/แท็บเล็ต (Reset phone/tablet)
- ในการยืนยัน ให้แตะ ลบทุกอย่าง (Erase everything)