α7S III
นำ S ซีรีส์ไปยังอีกระดับของการถ่ายทอดภาพยนตร์แบบฟูลเฟรม ความเร็วรูปแบบใหม่อันตื่นตานี้ผสานรวมกับความไวขั้นสุดยอดและเสียงที่เบาสุดขีดเพื่อให้สามารถถ่ายภาพยนตร์ 4K ได้จากเมนูซึ่งทำไม่ได้ในรุ่นก่อนหน้านี้ พร้อมช่วงไดนามิกสูง การโฟกัสอันตื่นตา และการป้องกันภาพสั่นไหวที่หนักแน่นเป็นพิเศษ โอกาสในการสร้างสรรค์ครั้งใหม่กำลังรอคุณอยู่
121,990.00 บาท |
ด้วยประสิทธิภาพของภาพยนตร์แบบฟูลเฟรมอันสุดยอด รวมถึงความไวแสงสูง (ISO ขยายสูงสุดถึง 409600) ช่วงไดนามิกกว้างถึง 15 สต็อป 4K 120p โฟกัสอัตโนมัติที่รวดเร็วและวางใจได้ และการป้องกันภาพสั่นไหวที่หนักแน่นเป็นพิเศษ ก็เป็นอีกครั้งที่ α7S III ยกระดับขึ้นอีกสำหรับผู้สร้างภาพยนตร์
เซนเซอร์ภาพ CMOS Exmor RTM แบบแสงด้านหลัง 12.1 เมกะพิกเซล ฟูลเฟรมรุ่นใหม่อัดแน่นด้วยนวัตกรรมอันยิ่งใหญ่ในการเพิ่มประสิทธิภาพในการเก็บแสง การเดินสาย และเอาต์พุต นวัตกรรมเหล่านี้มอบความเร็วในการอ่านแบบคู่ที่เร็วสุดขีด คุณภาพของภาพที่สุดยอดทั่วทั้งช่วงความไวแสงทุกระดับ ช่วงไดนามิกกว้างถึง 15 สต็อป และ Rolling Shutter ที่ลดลง และเซนเซอร์ยังมาพร้อม AF ตรวจจับระยะห่างระนาบโฟกัสอีกด้วย
ด้วยเซนเซอร์ใหม่และความเร็วที่ไม่มีใครเทียบ ระบบประมวลผลภาพ BIONZ XR ยังได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่และมาพร้อมพลังการประมวลผลมากกว่าถึง 8 เท่า ด้วยสถาปัตยกรรมที่มุ่งไปที่อนาคต ระบบนี้มอบรูปภาพคุณภาพสูงได้เร็วขึ้นเพื่อการถ่ายทอดภาพนิ่งและวิดีโออันเหนือชั้น รวมถึงการตอบสนองของอินเตอร์เฟซกล้องที่ได้รับการปรับปรุงเป็นอย่างมาก
เซนเซอร์ภาพฟูลเฟรม Exmor R และระบบประมวลผลภาพ BIONZ XR ที่ปฏิวัติวงการมอบ AF อย่างเที่ยงตรงที่ทำงานตลอดเวลาสำหรับรายละเอียดอันน่าทึ่งทั้งพื้นที่และเวลา และภาพยนตร์ 4K อันตื่นตาแม้ที่ 120 เฟรมต่อวินาที หรือในสโลว์โมชัน ผลลัพธ์ที่ได้คือความตื่นตาตื่นใจด้วยรายละเอียดและระยะชัดลึกที่ทำได้เพียงจากเซนเซอร์ฟูลเฟรมเท่านั้น
บันทึกจากกล้องโดยพร้อมด้วยความลึก 10 บิตและการสุ่มตัวอย่างสี 4:2:2 อันเต็มเปี่ยมอย่างเหลือเชื่อเพื่อความยืดหยุ่นที่มากขึ้นในการปรับคุณภาพของภาพ การทำขั้นตอนหลังการถ่ายทำ และการจัดองค์ประกอบ
มีการเข้ารหัส All-Intra เช่นเดียวกับ Long GOP โดยวิธีนี้จะเข้ารหัสทุกเฟรมแยกจากกันที่อัตราบิตสูงถึง 600Mbps เพื่อจับภาพเคลื่อนไหวที่ซับซ้อนได้แม่นยำยิ่งขึ้นสำหรับการบันทึกบนสื่อภายในหรือภายนอก และช่วยทำให้กระบวนการแก้ไขมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
[1] All-Intra (All-I) [2] Long GoP [3] กลุ่มรูปภาพ
รูปแบบการบันทึก XAVC HS ใหม่ใช้การเข้ารหัส HEVC/H.265 เพื่อมอบประสิทธิภาพในการบีบอัดที่มากกว่าการเข้ารหัส AVC/H.264 ถึงสองเท่า เพื่อให้คุณภาพของภาพที่เหนือกว่าและขนาดไฟล์ที่เล็กกว่า
ความไวอันโด่งดังของซีรีส์นี้ยกระดับค่าสูงสุดขึ้นใหม่ ด้วยช่วง ISO แบบขยายสำหรับภาพยนตร์ตั้งแต่ 80 ไปจนถึง 409600 อันน่าทึ่ง (ช่วงมาตรฐาน 80 - 102400) ด้วยการเก็บแสงขั้นสูงและการปรับประสิทธิภาพเอาต์พุต เซนเซอร์ฟูลเฟรม 12.1 เมกะพิกเซล ทำให้มีเสียงรบกวนต่ำตลอดช่วงความไว และสามารถจับภาพที่สามารถนำไปใช้ได้ในสภาวะที่เกือบจะมืดสนิท
การนำคุณสมบัติ S-Cinetone ที่มีชื่อเสียงของ Sony ซึ่งมาจากการพัฒนากล้อง Cinema Line FX9 และกล้อง CineAlta เช่น VENICE ทำให้ได้สีแบบภาพยนตร์โดยตรงจากกล้อง S-Cinetone ให้โทนสีผิวที่เป็นธรรมชาติและสีช่วงกลางที่เน้น roll-off อ่อนๆ เพื่อแสดงภาพวัตถุที่น่าประทับใจโดยไม่ต้องปรับแต่งหลังการถ่ายทำ
เส้นโค้งแกมม่า S-Log3 และ S-Gamut3.Cine colour gamut ระบบเดียวกับกล้องบันทึกวิดีโอระดับมืออาชีพ มอบช่วงไดนามิกที่กว้างขึ้นและการจับคู่สีที่ง่ายกว่าเดิมเพื่อการทำงานในขั้นตอนหลังการทำงานที่ราบลื่นกว่าเดิม
HLG (Hybrid Log Gamma) ทำให้การผลิต HDR ง่ายขึ้น ช่วยสร้างสรรค์ฟุตเทจสำหรับทีวี BRAVIA ที่เข้ากันได้กับ HLG บนกล้องนี้ได้โดยไม่มีขั้นตอนหลังการทำงานที่ซับซ้อน และการไล่ระดับที่ราบลื่นตั้งแต่ความลึกสี 10 บิต
[1] ความยืดหยุ่นสูงในการปรับแต่งรูปภาพตามต้องการ (จำเป็นต้องมีการไล่ระดับสี)
[2] รูปภาพคุณภาพสูงแบบทันที (ไม่จำเป็นต้องมีการไล่ระดับสี)
ระบบประมวลผลภาพ BIONZ XR ใหม่ที่มอบการปรับปรุงด้านการสร้างสี ความเสถียรเมื่อเทียบกับแหล่งแสงต่างๆ การไล่ระดับโทนธรรมชาติและ roll-off รวมถึง Rolling Shutter ที่ลดลง
สำหรับการทำงานในขั้นตอนหลังการถ่ายทำที่มีความต้องการสูง เอาต์พุต RAW 16 บิต มีพร้อมใช้งานผ่านการเชื่อมต่อ HDMI กับเครื่องบันทึกภายนอกที่เข้ากันได้ ในขณะที่ XAVC HS 4K, XAVC S 4K หรือ XAVC S-I 4K และไฟล์พร็อกซีจะได้รับการบันทึกไว้พร้อมๆ กันในกล้อง
Proxy HD (ในความลึกขนาด 8 หรือ 10 บิต) สามารถสร้างได้ในกล้อง ขณะบันทึกภาพยนตร์ 4K อัตราบิตสูง การแก้ไขไฟล์พร็อกซีขนาดเล็กลงช่วยลดโหลดของคอมพิวเตอร์และเร่งกระบวนการทำงานให้เร็วขึ้นก่อนหน้าการส่งที่ระดับ 4K ฉบับสุดท้าย
AF พื้นที่กว้างใช้การติดตามอัจฉริยะและการตรวจจับระยะห่างบนเซนเซอร์ที่ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่บนเฟรม ผลที่ได้คือประสิทธิภาพ AF ที่แม่นยำและติดตามได้ดีอย่างเหลือเชื่อผสานกับเลนส์ E-Mount คุณภาพสูง แม้ว่ากำลังถ่ายทำวัตถุเคลื่อนที่ที่มีระยะชัดลึกตื้นในรูปแบบ 4K และที่อัตราเฟรม 120p
ด้วยตัวเลือกความเร็วการเปลี่ยน AF มากกว่า 7 ระดับ และความไวในการเปลี่ยนวัตถุ AF มากกว่า 5 ระดับ คุณจึงสามารถสื่อสารตามความตั้งใจอันสร้างสรรค์ได้ดียิ่งขึ้นเมื่อเปลี่ยนวัตถุ หรือโฟกัสแบบแร็ค เป็นต้น การแตะเบาๆ สามารถเปิด AF ได้ชั่วคราวแม้ในระหว่างการใช้งานแบบโฟกัสด้วยตัวเอง
ระบบโฟกัสดวงตาแบบเรียลไทม์ใช้ AI เพื่อให้มั่นใจการโฟกัสที่เที่ยงตรงแม่นยำสำหรับดวงตา พร้อมประสิทธิภาพที่พัฒนาสูงขึ้น 30% บนโปรไฟล์หรือบางบริเวณที่ไม่ชัดเจน การติดตามสายตาแบบเกาะติดให้คุณพุ่งสมาธิไปที่องค์ประกอบได้แม้ระยะชัดลึกของโฟกัสจะตื้น
การติดตามแบบเรียลไทม์วิเคราะห์สี รูปแบบ ความลึก และข้อมูลใบหน้าของวัตถุเพื่อทำการติดตาม การติดตามด้วยการสัมผัสใช้งานง่ายและติดตามวัตถุที่สัมผัสบนหน้าจอ LCD โดยอัตโนมัติ
มีหน่วยการป้องกันภาพสั่นไหวที่มีความเที่ยงตรงสูง และเซนเซอร์ Gyro ที่มอบการป้องกันภาพสั่นไหวออปติคอล 5 แกน
[1] Yaw [2] Roll [3] Pitch
โหมด Active ใหม่มอบระบบป้องกันการสั่นไหวเพิ่มขึ้นสำหรับการถ่ายภาพยนตร์ โปรเซสเซอร์ BIONZ วัดการสั่นไหวของกล้องและชดเชยแบบออปติคัลเพื่อคงไว้ซึ่งคุณภาพของภาพ โหมดนี้ทำให้วิดีโอนิ่งสุดขีดแม้เมื่อถ่ายแบบมือถือในพื้นที่ที่ไม่สามารถใช้อุปกรณ์ Gimbal ได้ ขณะเดิน และถ่ายได้ที่ความละเอียด 4K
เรียนรู้ข้อดีสำคัญ 4 ประการของการใช้เลนส์ E-mount ของ Sony สำหรับการถ่ายวิดีโอ การผสมผสานระหว่างเลนส์และกล้องของ Sony จะช่วยยกระดับประสบการณ์การสร้างสรรค์วิดีโอของคุณ
อินเตอร์เฟซออดิโอแบบดิจิตอลที่ถูกเพิ่มเข้ามาในฐานเสียบ Multi Interface (MI) ทำให้สามารถใช้อินพุต 24 บิตโดยตรง โดยมีการตั้งค่าต่างๆ คือ 48kHz/16 บิต 2-ch และเมื่อใช้ชุดอะแดปเตอร์ XLR-K3M เสริม จะมี 48kHz/24 บิต 2-ch และ 48kHz/24 บิต 4-ch
ฮีทซิงค์แกรไฟท์ทรง Σ (ซิกม่า) ของ Sony ที่ไม่เหมือใครฝังลงในหน่วยการป้องกันภาพสั่นไหว ส่วนนี้กระจายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า 5 เท่า เพื่อการบันทึกเป็นระยะเวลานานโดยไม่รบกวนการทำงานของการป้องกันการสั่นไหว
ตามข้อคิดเห็นจากผู้ใช้มืออาชีพ ปุ่ม MOVIE ถูกย้ายไปที่ส่วนบนของหน้าเพื่อการใช้งานที่ดียิ่งขึ้นในทุกๆ ตำแหน่งการถ่ายทำ ลำดับแป้นหมุนเลือกโหมดและความเร็วในการเปลี่ยนยังได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพอีกด้วย
α7S III มอบโอกาสในการสร้างสรรค์ได้อย่างน่าทึ่งด้วยช่วง ISO มาตรฐานที่กว้างอย่างเหลือเชื่อถึง 80-102400 (ขยายได้ถึง 40-409600 สำหรับภาพนิ่ง) เซนเซอร์ภาพและอัลกอริทึมการประมวลผลภาพที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่สร้างสรรค์ภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้นและพื้นผิวที่เป็นธรรมชาติมากกว่า α7S II รุ่นก่อนหน้านี้ แม้กระทั่งเมื่อถ่ายในสภาวะแสงที่แทบจะมืดสนิท
ระบบ Fast Hybrid AF ผสานรวมความเร็วเข้ากับความแม่นยำ α7S III จะค้นหาและติดตามวัตถุได้อย่างรวดเร็วทั่วทั้งเฟรมด้วยเซนเซอร์ตรวจจับระยะห่างของระนาบโฟกัส 759 จุด และจุดการตรวจจับคอนทราส 425 จุดทั่วทั้งพื้นที่ภาพส่วนใหญ่
ใช้ตัวเลือกชัตเตอร์กลไกและอิเล็กทรอนิกส์สำหรับการถ่ายภาพต่อเนื่อง พร้อมการติดตาม AF/AE สูงสุด 10fps จับภาพช่วงเวลาที่สำคัญที่มีการถ่ายภาพ RAW แบบไม่บีบอัดต่อเนื่องที่อาจจะมากกว่า 1000 เฟรม
ความล้ำสมัยของอัลกอริธึม AF ทำให้ α7S III สามารถออโต้โฟกัสได้ในสภาพแสงสลัวเทียบเท่ากับ EV-6 ซึ่งแทบจะมองไม่เห็นวัตถุหากดูด้วยตาเปล่า
เซนเซอร์และระบบประมวลผลภาพที่พัฒนาขึ้นใหม่มอบการปรับปรุงในการสร้างสี โดยเฉพาะโทนสีผิว และการแสดงภาพพื้นผิวบนภาพนิ่ง
รองรับรูปแบบไฟล์ภาพ HEIF นำเสนอคุณภาพของภาพที่ดีกว่าและประสิทธิภาพการบีบอัดที่ยอดเยี่ยมกว่า JPEG และยังมาพร้อมสี 10 บิต ทั้งยังสามารถถ่ายภาพนิ่ง High Dynamic Range ในโหมด HLG ได้เพื่อรับชมบนทีวีที่เข้ากันได้
ช่องเสียบการ์ดทั้งสองรองรับทั้งการ์ด CFexpress Type A ที่มีความเร็วสุดขีดซึ่งสามารถบันทึกข้อมูลที่อัตราบิตสูงและล้างบัฟเฟอร์ได้เร็ว และการ์ด SDXC UHS-II นอกจากนี้ยังพร้อมใช้งานการบันทึกแบบ Parallel และ Relay ด้วยเช่นกัน
คุณสมบัติหน้าจอสัมผัส 1.44 ล้านจุด 3.0-type ที่ปรับได้หลายมุมมาพร้อมการออกแบบที่เข้าถึงได้จากด้านข้าง เพื่อให้ความยืดหยุ่นในการจัดตำแหน่งและการมองเห็นที่ดียิ่งขึ้นเมื่อติดตั้งบนอุปกรณ์ Gimbal หรือ Rig
EVF รุ่นใหม่มอบความละเอียด คอนทราส และสีที่ไม่เหมือนกับรุ่นใดในคลาส และยังมอบกำลังขยายของช่องมองภาพถึง 0.9x ระดับชั้นนำของโลก ขอบเขตการมองทแยงมุม 41° และจุดสายตาสูง 25 มม.
โครงสร้างเมนูได้รับการออกแบบใหม่เพื่อสะท้อนถึงข้อคิดเห็นจากช่างภาพและนักถ่ายวิดีโอมืออาชีพ ขณะนี้ การตั้งค่ากล้องทำได้ง่ายขึ้นและกล้องมีการตอบสนองที่ไวขึ้นต่อการตั้งค่าที่เปลี่ยนแปลงไป
ตามการร้องขอจากผู้ใช้มืออาชีพที่มีความต้องการมากที่สุด จึงทำให้มีการปรับปรุงครั้งใหญ่ต่อโครงสร้างเมนู เพื่อการอ่านแบบเหลือบมองที่ดียิ่งขึ้น และการใช้เมนูที่น้อยลง
หน้าจอเมนูใช้งานโดยการสัมผัส ขณะที่คุณสมบัติของหน้าจอการเล่นใช้การปัด และใช้นิ้วขยายเพื่อซูม นอกจากนี้ยังปรับปรุงการทำงานของฟังก์ชันการสัมผัสให้ดีขึ้นอีกด้วย
มาพร้อมการเชื่อมต่อ Wi-Fi® 2.4Ghz และ 5GHz สำหรับการใช้งานระยะไกล การดูตัวอย่างแบบไร้สาย และการถ่ายโอนข้อมูลที่เสถียรยิ่งขึ้นสำหรับทั้งหมดภาพนิ่งและวิดีโอ
สำหรับสภาวะแวดล้อมที่มีความซับซ้อนและง่ายต่อการถูกรบกวน หรือมีความต้องการแบนด์วิดธ์สูง การเชื่อมต่อ LAN ผ่านสาย 1000BASE-T มีพร้อมใช้งานโดยการเชื่อมต่อสายเคเบิลอะแดปเตอร์ USB-Ethernet กับพอร์ต USB Type C® ของกล้อง
การถ่ายภาพระยะไกลแบบใช้สายหรือไร้สายพร้อมใช้งานจากคอมพิวเตอร์ หรือจากอุปกรณ์มือถือที่มี Imaging Edge MobileTM ติดตั้งอยู่ เพื่อให้การทำงานและการถ่ายภาพในสภาวะแวดล้อมที่ท้าทายได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ยกระดับการถ่ายภาพของคุณด้วยแอปพลิเคชัน Imaging Edge Desktop ใช้ "Remote" เพื่อควบคุมและตรวจสอบการถ่ายภาพแบบสดๆ บนหน้าจอคอมพิวเตอร์; "Viewer" เพื่อดูตัวอย่าง จัดอันดับ และเลือกภาพถ่ายจากไลบรารีภาพขนาดใหญ่; และ "Edit" เพื่อแปลงข้อมูล RAW เป็นภาพถ่ายคุณภาพสูงสำหรับการส่งมอบ ใช้ประโยชน์จากไฟล์ RAW ของ Sony ได้อย่างเต็มที่ และจัดการการถ่ายทำของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Capture One Express (สำหรับ Sony) คือซอฟต์แวร์แก้ไขภาพฟรีที่ได้รางวัล ให้การแปลง RAW เป็นการจัดการที่ง่ายและเครื่องมือการแก้ไขที่ทรงพลัง และยังมี Capture One Pro (สำหรับ Sony) ที่มีเครื่องมือการแก้ไขที่มากขึ้นและความสามารถในการถ่ายภาพแบบเชื่อมโยง
แอปพลิเคชัน Imaging Edge Webcam ทำให้คุณใช้กล้อง Sony ได้ง่ายๆ เพราะมีเว็บแคมคุณภาพสูงพร้อมความเข้ากันได้ที่หลากหลาย เพื่อให้มี Live Streaming และการประชุมที่น่าประทับใจ
ผู้ใช้พูดว่า
