ประสบการณ์การถ่ายวิดีโอเหนือระดับด้วยกล้อง Full Frame
ไม่ว่าคุณจะถ่ายทำด้วยตัวคนเดียวหรือมีทีมงานฝ่ายผลิต ก็มาค้นพบได้เลยว่ากล้อง Alpha 7S III เหมาะกับการสร้างสรรค์วิดีโอของคุณในทุกแง่มุมได้อย่างไร
โปรดยอมรับคุกกี้ของ Youtube เพื่อรับชมวิดีโอนี้
เข้าถึงการกำหนดค่าคุกกี้ที่ด้านล่างและตรวจสอบให้แน่ใจว่าเปิดคุกกี้ของ Youtube แล้วในส่วน “การทำงาน”
ฟีเจอร์การถ่ายวิดีโอระดับมืออาชีพ
ภาพยนตร์ที่ทรงพลังเรื่องนี้ถ่ายทำโดย Den Lennie ซึ่งกล้อง Alpha 7S III ได้แสดงให้เห็นศักยภาพชั้นยอดด้วยการจับภาพคนเล่นเซิร์ฟด้วยความหลงใหลบริเวณชายฝั่ง Sunshine Coast อันสวยงามของออสเตรเลีย กล้อง Alpha 7S III มีช่วงการรับแสงกว้างถึง 15 สต็อป ช่วยป้องกันไม่ให้สีแตกขณะที่อาจต้องมีการตัดต่อภาพ กล้องสามารถจับภาพได้ทุกระดับสีตลอดการถ่ายทำไปจนถึงฉากที่สำคัญ ดังนั้นจึงสามารถไล่ระดับสีเพื่อให้ภาพที่น่าพอใจยิ่งขึ้นได้ง่ายๆ
สามารถถ่ายทำที่ความละเอียด 4K ที่ 120p หรือความละเอียด HD สูงสุด 240p จึงสามารถรังสรรค์วิดีโอสโลว์โมชันอันน่าทึ่งเพื่อเน้นความโดดเด่นของความงามได้ในทุกช่วงเวลา กล้อง Alpha 7S III มีเซนเซอร์ 12.1MP ที่ให้พิกเซลขนาดใหญ่จึงทำให้คุณมั่นใจได้ว่าทุกช็อตที่ถ่ายมีความคมชัดและไร้ภาพแบบโมเสกที่ไม่ราบเรียบ ทุกฉากที่ได้จะมีความคมชัดแม้อยู่ในสภาวะแสงน้อย
ฉากด้านบนมีแสงส่องด้านหลังโดยมีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เป็นจำนวนมาก เช่น พื้นผิวราวกับกระดาษทิชชู่ผืนละเอียดบนแถบต้นไม้ในลำคลอง ในการจับภาพให้ได้รายละเอียดทั้งหมดนั้นและเพื่อให้ได้ภาพที่เขาต้องการ Den จึงต้องตั้งกล้องกับเครื่องรางเลื่อนที่เคลื่อนที่ช้าที่สุดที่ 120 เฟรมต่อวินาที เนื่องจากตัวแบบเดินข้ามลำคลอง เขาจึงถ่ายฉากดังกล่าวที่ 600 เมกะบิตและถ่ายในเฟรมภาพนิ่งทั้งหมด ซึ่งทำให้ปรับระดับได้ง่ายขึ้นเพราะเขายังคงสามารถดึงเอาคีย์สำคัญออกมาจากใบไม้สีเขียวแล้วปรับสีสันเฉพาะรวมถึงเงาได้ เป็นตัวอย่างชั้นยอดของกล้องที่มีศักยภาพเต็มรูปแบบ
นอกจากนี้ Den ยังได้ขยายศักยภาพในการทำงานของเขาเองและของกล้อง Alpha 7S III โดยการถ่ายทำในฉากที่ท้าทายอย่างเช่นฉากที่มีแสงน้อยมาก เขาต้องการทำให้ภาพชัดเจนที่สุด เขาจึงถ่ายภาพโดยใช้ ISO ต่ำสุด การใช้กล้อง Alpha 7S III และเลนส์ G Master ที่ทำงานได้เร็วมากของ Sony ทำให้เขาสามารถถ่ายภาพได้คมและชัดเจนที่ ISO 500 ในโหมด S-Log 3
เขาอธิบายว่า “ผมไม่เคยใช้สมดุลแสงขาวเลย ผมถ่ายภาพแร่ทังสเตนเมื่ออยู่ภายในอาคารหรือถ่ายภาพแสงแดดยามเช้าเมื่ออยู่ภายนอกอาคาร ผมชอบทำแบบนั้น จึงรู้ดีว่าภาพแต่ละภาพที่ผมถ่ายมีอุณหภูมิสีที่ 5,600K นั่นหมายความว่าผมมีเกณฑ์พื้นฐานเมื่อต้องไล่ระดับสีของการถ่ายภาพ”
กล้อง Alpha 7S III สามารถถ่ายทำวิดีโอได้สูงสุด 10 บิต 4:2:2 ภายใน หมายความว่ากล้องจะถ่ายทำฟุตเทจได้ชัดเจนกว่ามาก สีที่บริเวณขอบวิดีโอก็จะชัดเจนสดใสกว่า และยังสามารถถ่ายทำฉากต่างๆ มากมายในสภาวะแสงที่แตกต่างกันได้อย่างไร้กังวล กล้อง Alpha 7S III ผลิตฟุตเทจคุณภาพสูงสุด เหมาะสำหรับการถ่ายทำที่มีฉากหลังเป็นกรีนสกรีน
โปรดยอมรับคุกกี้ของ Youtube เพื่อรับชมวิดีโอนี้
เข้าถึงการกำหนดค่าคุกกี้ที่ด้านล่างและตรวจสอบให้แน่ใจว่าเปิดคุกกี้ของ Youtube แล้วในส่วน “การทำงาน”
กล้องบันทึกวิดีโอระดับมืออาชีพที่ให้ความราบรื่นในทุกขั้นตอนการทำงาน
กล้อง Alpha 7S III ได้รับการออกแบบให้ใช้ได้กับทุกเลนส์แบบ “One Mount” จึงมีความยืดหยุ่นในการใช้งานอย่างน่าเหลือเชื่อ เพราะทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับกลุ่มเลนส์ 57 E-mount ทุกตัวของ Sony สามารถอัปเกรด สับเปลี่ยน และใช้เลนส์ร่วมกับกล้องบันทึกวิดีโอระดับมืออาชีพตัวอื่นๆ ของ Sony เพื่อให้การผลิตผลงานมีความรวดเร็ว คุ้มค่า และง่ายดาย
นอกจากนี้กล้อง Alpha 7S III ยังมีวิทยาการสีที่ปรับปรุงดีขึ้น สามารถทำงานร่วมกับเซนเซอร์เพื่อผลิตผลงานที่มีสีสันสมจริง โดยเฉพาะสีผิว ได้รับการออกแบบมาให้มีช่วงกว้างสีแบบ S-Gamut3/S-Gamut3 cine กล้องตัวนี้จึงใช้งานร่วมกับกล้องบันทึกวิดีโอแบบมืออาชีพได้เป็นอย่างดี เสริมพลังด้วยผลลัพธ์ภาพแบบ 16 บิต ไฟล์ RAW พร้อมสายเชื่อมต่อ HDMI ทำให้ขั้นตอนหลังการผลิตง่ายขึ้นและลดขั้นตอนที่ยุ่งยากลง
สำหรับภาพนี้ Den ถ่ายทำที่ H.265, 10 บิต 422 ซึ่งทำให้ขั้นตอนการตัดต่อเป็นไปอย่างง่ายดายที่สุด Den เน้นย้ำว่าในฐานะเป็นผู้ผลิตภาพยนตร์ที่ไม่ได้ใช้เทคนิคใด กล้องจะต้องทำงานหนักมากในเบื้องหลัง ดังนั้นสิ่งที่คุณต้องทำก็คือเลือกฉากที่คิดว่าดูดี และที่เหลือกล้องจะแสดงศักยภาพเอง
จัดสรรทีมงานและต้นทุนการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ
“ผมชอบทำงานกับคนแค่ 1-2 คนไม่เกินนี้...การใช้อุปกรณ์น้อยชิ้น ทำให้ผมคล่องตัวขึ้น”
กล้อง Alpha 7S III รังสรรค์วิดีโอคุณภาพสูงในเครื่องที่แสนกะทัดรัดที่ช่วยให้ตั้งค่าได้ง่ายๆ แม้เพียงคนเดียวโดยไม่ต้องใช้การเชื่อมต่อหรืออุปกรณ์เสริมเพิ่มเติม กล้องมีระบบโฟกัสอัตโนมัติระดับชั้นนำในอุตสาหกรรมจาก Sony และช่วยให้คุณจัดการระบบโฟกัสแบบเรียลไทม์หรือแบบสัมผัสได้ง่ายๆ ด้วยเหตุนี้จึงลดปริมาณคนทำงานและช่วยให้จดจ่ออยู่กับงานได้ดี
ในสภาพแวดล้อมที่คุณไม่สามารถควบคุมแสงได้จริงๆ “คุณจะต้องใช้กล้องที่สามารถทำงานแทนคุณได้” Den อธิบาย กล้อง Alpha 7S III ที่มีความไวแสงสูงและมีประสิทธิภาพในสภาวะแสงน้อยที่ดีขึ้น พร้อมระบบควบคุมจุดรบกวนที่ดีขึ้นที่ ISO สูงสุดถึง 409,600 จึงทำงานง่ายโดยใช้แสงน้อยหรือแม้ว่าจะไม่มีอุปกรณ์เพิ่มแสงก็ตาม ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดหรือถ่ายทำฉากใดในทุกช่วงเวลาของวัน
ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้แสดงประสิทธิภาพ
“เราถ่ายทำประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่งในวันแรก เราเปิดกล้องตลอดโดยไม่ใช้หน้าจอ LCD และเชื่อมต่อกับจอมอนิเตอร์ภายนอก หรือใช้ช่องมองภาพ EVF เครื่องก็ยังไม่ร้อน และไม่มีปัญหาอะไรเลย”
กล้อง Alpha 7S III มีระบบการจัดการความร้อนที่ได้รับการออกแบบใหม่ จึงสามารถระบายความร้อนได้ดีขึ้นกว่าเดิม 5 เท่า แถมไม่มีการจำกัดเวลาบันทึกวิดีโอ แม้ว่าจะถ่ายทำภายในอาคารที่มีโอกาสเกิดความร้อนได้สูงกว่า กล้องก็ยังใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยม
แบตเตอรี่ NP-FZ100 ของ Sony อันทรงพลังและมีความจุสูง ใช้ได้นานเป็นชั่วโมงแม้ต้องถ่ายทำต่อเนื่องที่ความละเอียด 4K 60p นอกจากนี้กล้องยังสามารถจัดการการ์ดหน่วยความจำ CF-Express สองตัวได้พร้อมกัน ซึ่งรองรับไฟล์ขนาดใหญ่และสามารถถ่ายทำได้อย่างต่อเนื่องยาวนานที่ความละเอียด 4K 120p ดังนั้นคุณจึงสนุกไปกับการถ่ายทำที่ราบรื่นและไม่ติดขัดตลอดงาน
เลนส์โปรดของ Den
“ผมต้องการได้ผลลัพธ์คุณภาพสูงสุดและดีที่สุดเสมอเท่าที่จะผลิตได้โดยไม่ต้องทำการปรับแต่งอะไรมากมายในขั้นตอนหลังการผลิต ผมไม่ต้องการให้การถ่ายทำของผมมีข้อบกพร่องแม้แต่น้อย”
เมื่อพูดถึงเลนส์ เลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างสูงสุดและมีความละเอียดสูงสุดถือเป็นอุปกรณ์ชิ้นโปรดของ Den นอกจากจะทำให้เขาสามารถสร้างสรรค์งานได้อย่างยืดหยุ่นน่าเหลือเชื่อแล้ว ยังสามารถจับภาพรายละเอียดได้อย่างประณีตชัดเจนได้สบายๆ Den บอกว่าเลนส์ G Master (GM) ของ Sony เป็นส่วนเติมเต็มกล้อง Alpha 7S III ได้อย่างยอดเยี่ยม แม้ในขณะถ่ายทำฉากที่ท้าทายที่สุดเท่าที่จะจินตนาการได้
สำหรับการถ่ายภาพฉากนี้ Den ถ่ายภาพในสภาพแวดล้อมที่คับแคบและมีแสงที่จำกัดมาก เขาต้องการให้มีแสงและรายละเอียดพื้นผิวมากที่สุดเพื่อให้เข้ากับเฟรมภาพ เขาจึงเลือกเลนส์ FE 12-24mm F2.8 GM (SEL1224GM) ของ Sony ซึ่งมีรูรับแสง F2.8 ที่ช่วยให้แสงเข้ามายังเซนเซอร์ในปริมาณมากท้้งยังคงความคมชัดในทุกขอบมุมและมีความบิดเบือนน้อยที่สุด
เขาทราบดีว่าการถ่ายภาพที่มีแสงอาทิตย์ส่องมาโดยตรงเป็นความท้าทายซึ่งจะทำให้เลนส์จำนวนมากมีแสงแฟลร์ที่ไม่พึงประสงค์ แต่เนื่องจากเลนส์ SEL1224GM มีการเคลือบ Nano AR II ที่ช่วยป้องกันการเกิดแสงแฟลร์และภาพหลอน ซึ่งใช้งานได้เป็นอย่างดีกับกล้อง Alpha 7S III ที่มีช่วงการรับแสง 15 สต็อปเพื่อสร้างสรรค์ภาพที่เขาต้องการ
เลนส์โปรดอีกตัวของ Den ก็คือเลนส์ FE 16-35mm F2.8 GM (SEL1635GM) เป็นเลนส์อเนกประสงค์มุมกว้างที่สามารถใช้ถ่ายภาพระยะใกล้ที่ให้ฉากหลังโบเก้ที่สวยงามได้ด้วย และเขาก็ชอบเลนส์ FE 70-200mm F2.8 GM OSS (SEL70200GM) ด้วย เพราะเขาใช้ในการถ่ายภาพระยะใกล้และถ่ายฉากภาพยนตร์เป็นหลัก
Den เน้นย้ำว่ารูรับแสงแบบ 11 ใบมีดช่วยรังสรรค์ฉากหลังโบเก้นุ่มนวลและเลนส์กระจก Super ED ให้สีสันธรรมชาติแสนสวยงาม ทำให้เลนส์เหมาะสำหรับถ่ายทำภาพยนตร์ และเขายังไว้ใจระบบโฟกัสอัตโนมัติในการจับโฟกัสของกล้อง และยังประทับใจมอเตอร์ RDSSM ที่ทำงานอย่างเงียบเชียบด้วย
เพียงมีเลนส์ 200 มม. ตัวนี้ ก็ช่วยให้ Den เก็บทุกรายละเอียดให้อยู่ในเฟรมได้เป็นอย่างดี ซึ่งช่วยให้เขาสร้างเทคนิคพิเศษทางภาพที่น่าตื่นตาได้ เช่น ภาพนักเล่นเซิร์ฟใต้แสงแดด
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ความคิดเห็นที่แสดงในบทความนี้เป็นของ Den ซึ่งไม่ได้สะท้อนความคิดเห็นหรือมุมมองของ Sony สิงคโปร์
อุปกรณ์ของ Den
Alpha 7S III
ILCE-7SM3
FE 12-24 มม. F2.8 GM
SEL1224GM
FE 16-35mm F2.8 GM
SEL1635GM
FE 70-200 มม. F2.8 GM OSS
SEL70200GM
มาดูประสบการณ์ของ Den Lennie ที่มีต่อกล้อง Alpha 7S III
เกี่ยวกับ Den
ฟุตเทจวิดีโอและเนื้อหาถ่ายทำโดย Den Lennie ผู้ผลิตวิดีโอ โค้ชสอนธุรกิจ และนักกลยุทธ์การตลาดที่มีประสบการณ์ในวงการมากกว่า 25 ปี เขาเคยเขียนหนังสือ 3 เล่มเกี่ยวกับธุรกิจการทำวิดีโอ เป็นผู้จัดรายการพอดแคสต์ประจำสัปดาห์ และเป็นวิทยากรให้ความรู้ที่งานกิจกรรมต่างๆ ทั่วโลก
การผลิตงานระดับย่อย
กล้อง Alpha ฟูลเฟรมให้วิดีโอคุณภาพสูงสุดเท่าที่เคยมีมา
นักถ่ายทำภาพยนตร์อย่าง Brandon Li ใช้กล้อง
Alpha 7S III ถ่ายคลิปนี้ ซึ่งจับฉากที่สวยงามสมกับเป็นฉากละครท่ามกลางธรรมชาติ โดยมีรายละเอียดแสนประณีตและคุณภาพที่คมชัด
กล้อง Alpha 7S III มีเซนเซอร์ 12.1MP รุ่นใหม่ ให้ช่วงการรับแสงที่กว้าง 15 สต็อป และการบันทึกเฟรมภาพนิ่งทั้งหมดที่ 4:2:2 10 บิต ช่วยให้จับภาพได้แม้ในสภาวะแสงน้อยที่สุดโดยเก็บครบทุกรายละเอียด
Brandon อธิบายว่า “สำหรับภาพถ่ายที่มีแสงจันทร์ มีแค่แสงจันทร์จริงๆ ผมให้กล้องแสดงศักยภาพอย่างเต็มที่...แล้วกล้องก็มีประสิทธิภาพไร้ขีดจำกัดจริงๆ!”
โปรดยอมรับคุกกี้ของ Youtube เพื่อรับชมวิดีโอนี้
เข้าถึงการกำหนดค่าคุกกี้ที่ด้านล่างและตรวจสอบให้แน่ใจว่าเปิดคุกกี้ของ Youtube แล้วในส่วน “การทำงาน”
กล้องมีวิทยาการสีขั้นสูง จึงสามารถผลิตผลงานที่มีการไล่ระดับสีที่ละเอียดและราบรื่นที่สุดแม้ถ่ายในยามค่ำคืนหรือในฉากที่มีแสงธรรมชาติท่ามกลางท้องฟ้าที่มีพายุแปรปรวนโดยแทบจะไม่มีจุดสีรบกวน
ออกแบบมาเพื่องานสร้างสรรค์
นอกจากนี้กล้องยังมีประสิทธิภาพชัตเตอร์ที่ดีขึ้นโดยลดอาการภาพล้มที่ดีกว่ากล้องรุ่นก่อนหน้าเกือบ 3 เท่า หมายความว่าการเลื่อนกล้องเพื่อถ่ายภาพมีความราบรื่นมากยิ่งขึ้นและแทบไม่มีการสั่นไหวเมื่อต้องเคลื่อนย้ายกล้อง เสริมพลังด้วยความสามารถของกล้อง Alpha 7S III เพื่อการถ่ายทำที่ความละเอียดสูงสุด 4K 120p และ Full HD 240p ดังนั้นจึงง่ายสำหรับการสร้างสรรค์วิดีโอสโลว์โมชันและสโลว์โมชันขั้นสุดเพื่อให้ได้อารมณ์สมกับเป็นฉากภาพยนตร์
Brandon ยังระบุด้วยว่า “ISO จะแตกต่างกันออกไปเมื่อคุณถ่ายทำในโหมด log เทียบกับ non-log หากคุณถ่ายทำในโหมด log จะมี ISO สูงกว่ามาก แต่ประสิทธิภาพของกล้องด้านโฟกัสอัตโนมัติและฟีเจอร์อื่นๆ ยังใช้งานได้ดีอยู่”
โปรดยอมรับคุกกี้ของ Youtube เพื่อรับชมวิดีโอนี้
เข้าถึงการกำหนดค่าคุกกี้ที่ด้านล่างและตรวจสอบให้แน่ใจว่าเปิดคุกกี้ของ Youtube แล้วในส่วน “การทำงาน”
เหมาะสำหรับการทำงานตัวคนเดียว
“ผมมักจะเหงื่อออกเพราะต้องวิ่ง และผมมักจะใช้กิมบอล”
กล้อง Alpha 7S III เป็นกล้องฟูลเฟรมขนาดกะทัดรัดที่เหมาะกับการใช้งานตัวคนเดียวโดยไม่ลดทอนคุณภาพหรือประโยชน์ใช้งาน เป็นกล้องระดับมืออาชีพที่พกพาใส่กระเป๋าสะพายหลังได้พอดี หน้าจอหมุนได้เต็มที่ 360 องศา จึงช่วยให้คุณถ่ายภาพได้จากทุกมุม มีขนาดกะทัดรัดเหมาะมือ ง่ายต่อการเคลื่อนไหวในพื้นที่แคบ ไม่ว่าจะเป็นมุมต่ำหรือมุมสูง หรือมีความท้าทายเพียงใด คุณก็ถ่ายภาพได้อย่างสมบุกสมบันที่สุด
นอกจากนี้ กล้องยังมีระบบโฟกัสภาพต่อเนื่องแบบเรียลไทม์และระบบโฟกัสดวงตาอัตโนมัติที่ช่วยให้คุณทำงานได้ง่ายเมื่อใช้งานร่วมกับกิมบอล เพื่อให้ได้ภาพที่สร้างสรรค์ตามต้องการโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการดึงโฟกัสหรือไม่จำเป็นต้องใช้คนช่วยดึงโฟกัส และกล้องยังมีประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมแม้อยู่ในสภาวะแสงน้อย จึงช่วยลดความจำเป็นในการใช้ไฟเสริมได้ด้วย
กล้อง Alpha 7S III ได้รับการออกแบบให้มีระบบโฟกัสอัตโนมัติชั้นนำในอุตสาหกรรม มีจุดโฟกัสอัตโนมัติ 759 จุด จึงสามารถจับโฟกัสตัวแบบได้ต่อเนื่องอย่างง่ายดายเพื่อรังสรรค์ผลลัพธ์ที่แสนราบรื่น ไม่ว่าตัวแบบจะเคลื่อนที่ไปทางใด ซึ่งสิ่งนี้สำคัญมากเมื่อต้องถ่ายทำฉากที่เต็มไปด้วยการเคลื่อนไหวโดยใช้กิมบอล
“ผมมีลำดับการถ่ายทำที่วางแผนอย่างดีไว้แล้ว ฉะนั้นจึงจำเป็นต้องมีกล้องที่เหมาะสมที่สุด เพื่อให้ผมใช้งานได้อย่างไหลลื่นตลอดการถ่ายทำ”
Brandon เล่าว่าการถ่ายทำที่ 4:2:2 10 บิตของกล้อง ช่วยสร้างลำดับวิดีโอที่ต่อเนื่องตั้งแต่การถ่ายทำไปจนถึงการตัดต่อ ผู้สร้างสรรค์ผลงานสามารถเริ่มการตัดต่อได้เพียงไม่กี่นาทีหลังถ่ายทำ เพียงแค่ต้องเสียบสายเชื่อมต่อกล้อง ลากและวางไฟล์ลงในโปรแกรมการตัดต่อ แล้วก็ตัดต่อได้เลย
“ผมไม่ใช่คนที่ชอบอะไรหวือหวาสักเท่าไหร่...ผมเติมแต่งสีสันเพียงเล็กน้อย...เพราะผมรู้สึกว่างานส่วนใหญ่ควรจะดูสวยงามมาตั้งแต่ตอนถ่ายทำแล้ว และกล้องควรจับภาพโทนสีผิวได้อย่างสมจริง”
และกล้องยังช่วยให้ขั้นตอนหลังการผลิตง่ายขึ้นได้ด้วยวิทยาการด้านสีสันที่ปรับปรุงดีขึ้น กล้องจึงจับภาพและให้สีสันสมจริงได้แม้ในสภาวะแสงน้อย
พกพาได้อย่างมั่นใจ
“สิ่งที่ผมจะพูดก็คือผมรู้สึกร้อนแทบทนไม่ได้ก่อนที่ตัวกล้องจะร้อนเสียอีก กล้องไม่มีปัญหาเรื่องความร้อนแม้ว่าผมจะใช้ถ่ายทำใต้แสงแดดโดยตรงในช่วงกลางฤดูร้อนและกลางทะเลทรายเป็นเวลา 3 ชั่วโมง และไม่ได้ขยับไปไหนเลยเป็นเวลา 3 ชั่วโมงติดต่อกัน แม้ว่าจะถ่ายทำโดยไม่มีขาตั้งกล้องที่ 120p กล้องก็ยังไม่ร้อน”
กล้อง Alpha 7SIII มีระบบการจัดการความร้อนแบบใหม่ที่สามารถระบายความร้อนได้ดีขึ้นกว่าเดิม 5 เท่า และไม่มีการจำกัดเวลาถ่ายทำ ทั้งยังมีแบตเตอรี่ NP-FZ100 ความจุสูงของ Sony ซึ่งสามารถใช้งานได้เป็นชั่วโมงเมื่อถ่ายทำต่อเนื่องที่ความละเอียด 4K 60p
นอกจากนี้ กล้องยังเป็นอุปกรณ์คู่ใจที่ไปกับคุณทุกที่แม้ในภูมิประเทศหรือสภาพอากาศที่มีความยากลำบากที่สุด เพราะตัวกล้องทนทานต่อทุกสภาพอากาศทั้งฝนตกหนักและสภาพแวดล้อมที่มีความชื้น
เลนส์โปรดของ Brandon
“ในฐานะที่ผมเป็นนักเดินทางท่องโลกและต้องการทำตามเป้าหมายให้สำเร็จ ส่วนใหญ่ผมก็ต้องทำงานด้วยตัวเองโดยไม่มีผู้ช่วย ดังนั้นอุปกรณ์การถ่ายทำของผมจึงต้องมีน้ำหนักเบาและพกพาสะดวก”
เมื่อพูดถึงเลนส์ Brandon ให้ความสำคัญกับความสว่างและความสามารถในการโฟกัสได้อย่างรวดเร็ว เพราะส่วนใหญ่เขาจะถ่ายทำโดยใช้กิมบอลและขาตั้งกล้องแบบขาเดี่ยว หนึ่งในเลนส์ที่เขาชื่นชอบคือเลนส์ FE 24mm F1.4GM (SEL24F14GM)
เลนส์ SEL24F14GM เป็นเลนส์มุมกว้างที่มีรูรับแสงกว้าง ช่วยให้ Brandon สามารถถ่ายทำได้ในมุมกว้างที่มีความชัดลึก มอเตอร์แนวราบ XD เสริมพลังด้วยระบบการจับโฟกัสและโฟกัสอัตโนมัติทุกระยะของกล้อง Alpha 7S III มีประโยชน์เป็นพิเศษเมื่อเขาต้องเคลื่อนที่โดยใช้กิมบอลที่สามารถจับโฟกัสที่ตัวแบบพร้อมกับแสดงให้เห็นฉากหลังได้อย่างชัดเจน
เลนส์มีน้ำหนักเพียง 445 กรัม แม้ติดตั้งกับกล้องและกิมบอล เมื่อประกอบอุปกรณ์เข้ากันแล้วก็ยังเบาพอสำหรับการวิ่งถ่ายทำได้อย่างคล่องตัว นอกจากนี้เลนส์ยังให้สีสันที่สวยงามและให้ภาพคมชัดทุกอณูแม้ในบริเวณมุม
Brandon เน้นย้ำว่ารูรับแสง F1.4 ของเลนส์ SEL24F14GM ช่วยให้เขาสามารถใช้ประโยชน์จากกล้อง Alpha 7S III ได้มากขึ้นอีก แม้ว่าเขาจะถ่ายทำฉากใต้แสงจันทร์โดยไม่ได้ใช้แสงไฟเสริมใดๆ ก็ยังสามารถจับภาพได้คมชัด เพราะกล้องมีความไวแสงสูงและมีระบบควบคุมจุดรบกวนที่มีประสิทธิภาพ
เลนส์อีกตัวที่ Brandon ขาดไม่ได้ก็คือเลนส์ FE 135mm F1.8GM (SEL135F18GM)
แม้ว่าเลนส์ SEL135F18GM จะมีน้ำหนักมากสักหน่อย แต่ก็ยังติดตั้งกับกิมบอลได้อย่างง่ายดาย เมื่อต้องการถ่ายภาพระยะใกล้ และก็ยังเก็บทุกรายละเอียดตัวแบบได้อย่างอยู่หมัดอีกด้วย
รูรับแสงแบบ 11 ใบมีดและชิ้นเลนส์ XA ทำให้เลนส์เหมาะสำหรับถ่ายภาพบุคคลในสภาวะแสงน้อยที่แยกตัวแบบออกจากฉากหลังอย่างชัดเจน ทั้งยังโฟกัสคมชัดที่ตัวแบบ และรังสรรค์ฉากหลังโบเก้ที่แสนนุ่มนวล
นอกจากนี้ ในชุดอุปกรณ์ของเขายังมีเลนส์ FE 50mm F1.4 ZA (SEL50F14Z) แม้จะไม่ใช่เลนส์ G Master Prime แต่ Brandon ก็ชื่นชอบเลนส์จาก Zeiss และใช้สร้างสรรค์การถ่ายทำระยะใกล้ เพราะมีความยาวโฟกัสสำหรับถ่ายทำภาพยนตร์ในแบบที่เขาต้องการ
ความคิดเห็นที่แสดงในบทความนี้เป็นของ Brandon ซึ่งไม่ได้สะท้อนความคิดเห็นหรือมุมมองของ Sony สิงคโปร์
อุปกรณ์ของ Brandon
Alpha 7S III
ILCE-7SM3
FE 24mm F1.4 GM
SEL24F14GM
FE 135mm F1.8 GM
SEL135F18GM
Planar T* FE 50mm F1.4 ZA
SEL50F14Z
มาดูประสบการณ์ของ Brandon Li ที่มีต่อกล้อง Alpha 7S III
เกี่ยวกับ Brandon Li
ฟุตเทจวิดีโอและเนื้อหาถ่ายทำโดย Brandon Li เขาได้เดินทางรอบโลกเพื่อท่องเที่ยวมา 7 ปี และทำภาพยนตร์เกี่ยวกับผู้คนและวัฒนธรรมที่เขาพบระหว่างทาง วิธีการถ่ายทำแบบมินิมอลช่วยให้เขาได้ฟุตเทจที่เป็นธรรมชาติในรูปแบบที่มีพลวัตทางสายตา วิดีโอของเขาชนะรางวัล Best of the Year ของ Vimeo, Webby และ Travel Video Awards เขาได้ลงนิตยสาร National Geographic, BBC, TIME, TEDx และ Smithsonian Institute
มาดูการสนทนากลุ่มเกี่ยวกับกล้อง Alpha 7S III กับ Den Lennie และ Brandon Li