8 วัน 2589 กม. การรีวิวกล้องโซนี่ α7R III จากสิงคโปร์ถึงฮ่องกง
โดย ไทร์พีกส์ อิมเมจรี
ชาร์เมนและฉันมีกล้องในตระกูล Sony α7RII หลายตัวมาก ซึ่งก็ได้ผ่านการใช้งานมาอย่างคุ้มค่า ตั้งแต่การถ่ายภาพท่ามกลางอากาศหนาวจัดในกรีนแลนด์ไปจนถึงการหนีลูกเห็บในเทือกเขาหวงซาน (Yellow Mountains) กล้อง Sony ได้เห็นมาแล้วทั้งหมด ดังนั้นเมื่อมีงานให้ทดสอบกล้อง α7RIII รุ่นใหม่ของ Sony พวกเราก็รู้สึกถึงความน่าตื่นเต้นชัดเจน กล้องรุ่นใหม่นี้อาจดูคล้ายกับโมเดลเก่าอยู่บ้าง แต่ก็มีการปรับปรุงสำคัญหลายส่วน และเราก็ได้พา Sony α7RIII ไปตะลุยโลกแห่งความท้าทายตลอดทั้งอาทิตย์นั้น อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
วันที่หนึ่ง งานถ่ายภาพแบบ ณ สถานที่
งานของเราในวันนี้คือการถ่ายไลฟ์สไตล์และสิ่งตกแต่งภายใน ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ทดสอบกล้องใหม่ของเรา ในฉากแรกเราได้ทำงานร่วมกับบาริสต้าหนุ่ม ผู้อาบแสงที่ส่องผ่านเข้ามาทางหน้าต่างทรงพุ่มไม้ และติดตามทุกความเคลื่อนไหวของเขาด้วยจอยสติ๊กโฟกัสอัตโนมัติ (AF) แบบใหม่ของ Sony α7R III ซึ่งช่วยให้ฉันเลือกจุดโฟกัสได้ด้วยการขยับนิ้วหัวแม่มือไวๆ ฉันถ่ายภาพโดยใช้โหมดถ่ายภาพต่อเนื่องจนเสร็จสิ้นในเวลาที่รวดเร็ว และรู้สึกประทับใจในการตอบสนองของตัวกล้องในการจัดการกับไฟล์ RAW ขนาดใหญ่
ไม่นานนักเราก็ไปยังสถานที่ถ่ายภาพจุดต่อไป ซึ่งก็คือการถ่ายภาพอาหาร เราเปลี่ยนเป็นเลนส์มาโครแบบแมนนวล ก่อนจะเปิดใช้ ‘โหมดช่วยโฟกัส (peaking mode)’ และปรับโฟกัสลงบนแครมบรูว์เลเผาสดด้วยตนเอง ช่องมองภาพมีความคมชัดและชัดเจน เพราะงั้นการหาจุดโฟกัสในอุดมคติก็เป็นเพียงเรื่องง่ายดายไปเลย ทั้งความรวดเร็วและความมั่นใจในการทำงานของฉันสื่อได้เราพร้อมสำหรับตารางงานถัดไปแล้ว ปิดงานถ่ายภาพสถาปัตยกรรมและไลฟ์สไตล์ไปด้วยความสามารถในการผลิตภาพระดับสูง
ภาพที่ 1: "จอยสติ๊ก AF” รุ่นใหม่คือตัวช่วยชั้นดีในการขยับจุดโฟกัสตามตำแหน่งในเฟรมได้อย่างถูกต้องแม่นยำ
ภาพที่ 2: ค่าความละเอียดสูงของ EVF แบบใหม่ทำให้การจัดวางองค์ประกอบและการเลือกจุดโฟกัสกลายเป็นเรื่องง่ายในทันที
ภาพที่ 3: ช่วงไดนามิกชั้นยอด เก็บได้ทั้งรายละเอียดแสงและเงาในภาพนี้
กล้องโซนี่ α7R III มีช่องเสียบ SD การ์ดคู่และระบบสำรองข้อมูลอัจฉริยะที่จะทำซ้ำภาพที่คุณถ่ายไว้ใน SD การ์ดอีกใบหนึ่ง นอกจากนี้คุณยังสามารถกำหนดได้ว่าจะให้บันทึกเป็นไฟล์ JPEG หรือ RAW ใน SD การ์ดสำรอง ผมยื่น SD การ์ดที่มีไฟล์ JPEG ให้ทีมบรรณาธิการเพื่อจัดวางตำแหน่งได้เลย แล้วผมก็ทำงานกับไฟล์ RAW ที่สตูดิโอของผม เมื่อทำงานไปทั้งวันจนใกล้จะเสร็จ เราก็ประทับใจกล้องโซนี่ Sony α7R III กันพอสมควร
วันที่สอง ตามล่าสัตว์ป่าแสนสนุก
ภารกิจถัดมาของเราคือการถ่ายภาพสัตว์ป่าในสิงคโปร์ ซึ่งทางโซนี่ก็ใจดีให้เรายืมใช้เลนส์ SEL70200GM หนึ่งในเลนส์ซูมระดับตำนานสามตัวของโซนี่ นี่เป็นครั้งแรกที่เราจะได้ใช้เลนส์ซูม GM ชื่อก้องและเราก็ตื่นเต้นมากที่จะได้ลองใช้ ลูกค้าสรุปงานว่าต้องการนำเสนอความยอดเยี่ยมในการทำงานของเลนส์เมื่อเปิดรูรับแสงที่ f2.8 และเนื่องจากว่าเราต้องถ่ายโดยเปิดรูรับแสงกว้างทุกรูป ความชัดลึกชัดตื้นนี่เองจึงเป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้เพลิดเพลินไปกับฉากหลังละมุนๆ
ภาพที่ 4: 10FPS พร้อมบัฟเฟอร์ขนาดใหญ่ ทำให้การถ่ายภาพสัตว์ป่าเป็นเรื่องง่ายดาย
ห้าวันกับอากาศร้อนจัด เราแกะรอยเจอลิงแสม กระรอกข้างลายท้องแดงและนากทะเลได้ ซึ่งนากทะเลเป็นสัตว์หวงอาณาเขตมากและเราได้ถ่ายแค่ไม่กี่ภาพเท่านั้นก่อนที่นากทะเลที่โตแล้วจะพุ่งเข้าใส่เรา ต้องขอบคุณระบบโฟกัสอัตโนมัติต่อเนื่องอันสุดยอดของกล้องโซนี่ α7R III สามารถถ่ายเร็วได้ 10 fps ในโหมดเงียบและบัฟเฟอร์ขนาดใหญ่ ทำให้อัตราการได้ภาพของเราสูงมาก เมื่อใช้คู่กับ SD การ์ด SF-G ของโซนี่ที่มีความเร็วในการเขียนถึง 299MB/s กล้องจัดการกับไฟล์ RAW ขนาด 42MP ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่มีสะดุด วิศวกรของโซนี่ได้สร้างความสำเร็จทางเทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่มากทีเดียว
ภาพที่ 5: เฟรมสุดท้ายและท้ายสุดก่อนที่ตัวนากจะพุ่งเข้าใส่
ภาพที่ 6: EVF ความละเอียดสูงช่วยในการโฟกัสแบบแมนนวล
วันที่สี่ กลับไปยังเฟรแกรนท์ ฮาร์เบอร์
การกลับมาที่ฮ่องกงนั้นตรงกันข้ามกับสิงคโปร์อย่างสิ้นเชิง มันทั้งหนาว และมีค่าฝุ่นต่อวันทะลุถึงระดับ PM2.5 ซึ่งไม่ค่อยดีต่อสุขภาพเท่าไหร่ และโอกาสที่จะเห็นท้องฟ้าสว่างสดใสนั้นก็เป็นไปได้ยากเหลือเกิน
รูปภาพที่ 7: กล้อง α7R III คือกล้องที่ถ่ายภาพแสงน้อยได้ดีมาก
เมื่อความหวังในการเดินป่าถูกทำลายลง เราจึงตัดสินใจไปบุกถนนในซ้าม โสย โป๋ และเข้าสู่โหมดช่างถ่ายภาพท้องถนน
ภาพที่ 8: ชาร์เมนที่กำลังเพลิดเพลินกับ EVF ที่สว่างและชัดขึ้น
ทั้งความเร่งรีบและวุ่นวายของซ้าม โสย โป๋ ถือเป็นลักษณะของพลังงานสดใหม่ที่พุ่งตัวออกมาจากแผงสินค้าที่ทอดยาวเป็นแนวตามถนน การขายสินค้าทุกชนิดตั้งแต่ป้ายไฟ LED หลากสีไปจนถึงเครื่องมือช่างคือสิ่งดีงามที่สุดของวัฒนธรรมฮ่องกงโดยแท้จริง ซึ่งมีทั้งความจอแจ กระฉับกระเฉง ว่องไว และสีสัน
ภาพที่ 9: ตลาดนัดในซ้าม โสย โป๋ ความเป็นธรรมชาติและเต็มไปด้วยพลัง
สาระสำคัญของการถ่ายภาพตามท้องถนนคือการบันทึกช่วงขณะให้ได้โดยที่ไม่ดึงความสนใจ การทำงานคู่กันของ AF กับโหมดถ่ายภาพเงียบต่อเนื่อง 10 FPS ช่วยให้เราทำดังนั้นได้โดยไม่ทำให้คนในพื้นที่อารมณ์ร้อนโกรธขึ้นมา
ช่วงท้ายๆ ของการถ่ายภาพ ชาร์เมนก็เกิดตกหลุมรักกับ EVF ที่ปรับปรุงขึ้นของกล้องโซนี่ α7R III เธอคิดว่า EVF โฟกัสได้ชัดขึ้นและง่ายขึ้น เพราะมีการเพิ่มความละเอียด อัตราการรีเฟรชและระดับความสว่าง นอกจากนี้เรายังชื่นชอบตรงที่เมื่อพลิกจอ LCD ออกด้านนอก หน้าจอ LCD จะยังติดอยู่ หมายความว่ากล้องไม่ได้สลับส่วนแสดงผลเป็น EVF ทุกครั้งที่เราขยับกล้องเข้าใกล้ตัว ซึ่งการพัฒนาเล็กๆ น้อยๆ นี้ช่วยทำให้ประสบการณ์ใช้งานของผู้ใช้ดีขึ้นจริงๆ
แบตเตอรี่ NP-FZ100 พร้อมความจุใหม่ที่สูงขึ้นทำให้การถ่ายภาพตามท้องถนนทั้งวันเป็นไปได้ง่ายๆ เราใช้แบตเตอรี่แค่ก้อนเดียวสำหรับการถ่ายทั้งวัน การที่ไม่ต้องคอยกังวลกับแบตเตอรี่และการจัดการพลังงาน ทำให้เราจดจ่ออยู่กับงานตรงหน้าได้
วันที่เจ็ด ท้องฟ้าที่ไร้ฝุ่นควัน และการกลับไปเยือนซ้าม โสย โป๋ (Sham Shui Po)
เข้าสู่วันที่ 7 ในฮ่องกง เราตื่นกันเพราะแสงสว่างสดใสของพระอาทิตย์ที่ส่องแยงตา ท้องฟ้าในวันนั้นปลอดโปร่งไร้ฝุ่นควัน เราเลยเตรียมทุกอย่างด้วยความฉับไว รวมทั้งจัดกระเป๋าให้พร้อมสำหรับทริปวิกตอเรีย พีกด้วย
ภาพที่ 10: ช่วงไดนามิกที่แสนน่าทึ่งของ α7RIII – รูปทั้งหมดมาจากไฟล์ RAW
เราขับรถไปตามถนนลูการ์ดเพื่อถ่ายภาพชั่วโมงสีฟ้าที่กำลังจะเกิดขึ้น พอท้องฟ้ามืด เราตัดสินใจหยิบ SEL100400GM ออกมาใช้และเล็งไปที่ตึกสูงๆ ของเกาะฮ่องกง คุณภาพรูปจากกล้องโซนี่ α7R III ละเอียดมาก สะอาดตาและมีช่วงไดนามิกมากมาย ภาพข้างบนประมวลผลมาจากไฟล์ RAW เพียงไฟล์เดียว และการดึงเอารายละเอียดออกมาจากพื้นที่เงาและพื้นที่ไฮไลท์ก็ทำได้ง่ายๆ แค่ใช้แกนปรับเส้นโค้ง S เล็กน้อย น่าประทับใจมากจริงๆ อีกอย่าง เลนส์ SEL100400GM ก็เป็นเลนส์ที่เราต้องมีติดกระเป๋าแล้วด้วยเหมือนกัน เราตกหลุมรักเลนส์นี้ ให้มุมกว้างคมชัดสม่ำเสมอช่วงระยะโฟกัส
ที่ซ๊ามโซ๋ยโป๋ว เวลาประมาณห้าทุ่ม ที่ตลาดนัดเฉพาะกิจกำลังครึกครื้น คนขายของเก่ากำลังจัดแสดงสินค้าบนถนนราดยาง ส่วนบางคนที่ฉลาดกว่าจะใช้ไฟ LED แบบใส่ถ่านให้แสงสว่างสินค้า ลูกค้าที่มีประสบการณ์พากันคัดกรองดูสินค้าอย่างละเอียดเพื่อต่อราคา ซ๊ามโซ๋ยโป๋วเป็นย่านที่ไม่เคยหลับใหลจริงๆ
พอมีแรงบันดาลใจ เราก็เริ่มบันทึกภาพยนตร์ที่ตลาดนัดกลางคืนด้วยกล้องโซนี่ α7R III เราไม่ได้ใช้ขาตั้งกล้อง หัวขาตั้งกล้อง กับจอมอนิเตอร์เลย เขาพึ่งพาระบบ IBIS 5 แกนของกล้องโซนี่ α7R III เพียงอย่างเดียว ซึ่งก็ทำงานได้ดีมากทีเดียว เราไม่ต้องขยับมือโดยไม่จำเป็นมากมายและก็ถ่ายคลิปวิดีโอได้ราบรื่นเลย
รูปที่ 11: ชาร์เมนถ่ายภาพสุริยคราสโดยใช้ SEL100400GM และ SEL14TC ร่วมกัน
นอกจากนี้ กล้องโซนี่ α7R III มีรายชื่อภาพโปรไฟล์แบบวิดีโออย่างครอบคลุม ให้คุณเลือกภาพที่ต้องการได้ง่ายๆ เนื่องจากระดับแสงต่ำ เราจึงบันทึกวิดีโอโดยใช้ Cine4 Picture Profile เพื่อดึงเอาปริมาณสีออกมาให้ได้มากที่สุด
วันที่ 8 จบงาน จัดการงานอย่างอยู่หมัดด้วยกล้อง α7R III
ขากลับไปสิงคโปร์ของเรา ชาร์เมนกับผมเกิดศรัทธาในกล้องโซนี่ α7R III อย่างมาก มีหลายส่วนที่กล้อง α7R III ปรับปรุงเพิ่มเติม เช่น AF ที่เร็วขึ้น, ความเร็วในการถ่าย 10 FPS, EVF กับ LCD ชั้นยอด, ประสิทธิภาพการบัฟเฟอร์อันยอดเยี่ยม, แบตเตอรี่ที่อึดขึ้น แล้วก็อื่นๆ กลายเป็นกล้องที่สมบูรณ์และทรงประสิทธิภาพมากขึ้น สำหรับเราแล้ว กล้อง α7R III ลงตัวกับสไตล์การถ่ายรูปของเราพอดี ทำให้เราถ่ายภาพหลากหลายประเภทได้อย่างมั่นใจ ผมกล้าพูดว่าทั้งชาร์เมนและผมจะเพิ่มกล้อง α7R III ไว้ในกระเป๋ากล้องของเราเร็วๆ นี้เลย
ภาพที่ 12: บัฟเฟอร์ขนาดใหญ่ก็ควรค่าแก่การบันทึกภาพช่วงเวลาบนท้องถนนเช่นกัน
a7R III
ILCE-7RM3